ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา
ตายไม่สูญ.......แล้วไปไหน
ทำอย่างไร ให้เข้าถึงจริง........ซึ่งทุกสิ่งคือความทุกข์
ไม่จีรัง ไม่ยั่งยืน.......ก็ต้องคืนในความจริง
สู่ธรรมชาติของทุกสิ่ง......เราต้องขอเอาไปทิ้ง
ซึ่งขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา.......เมื่อตัดขันธ์ และทุกสิ่ง
มุ่งสู่นิพพาน ซึ่งเป็นจริง......มีแต่สุข ไม่ทุกข์เอย..
พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ทางที่ไปมี 5 สาย คือ
- อบายภูมิ ได้แก่ เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน คือเป็นบุคคลที่ละเมิดศีล 5 เมื่อตายจากคนแล้วไปสู่อบายภูมิ
- เกิดเป็นมนุษย์ ผู้ที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีกนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีกรรมบท 10 เป็นคนมีศีล 5 ประจำ
- เกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ จะต้องเป็นผู้ที่มีความละอายต่อความชั่ว เกรงผลของความชั่วทั้งต่อหน้าและลับหลัง
- เกิดเป็นพรหม จะต้องเป็นนักกรรมฐาน มีอารมณ์จิตเป็นฌาน คือเข้าฌานตาย
- ไปนิพพาน แดนเกิดสายที่ 5 แดนนิพพานนี้ คนที่จะถึงพระนิพพานได้นั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์ 10 อย่างคือ
- ไม่เมาในตนเองหรือวัตถุ รู้เสมอว่าจะต้องตายและพลัดพรากจากของรัก
- ไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สอนว่าไม่มีอะไรทรงสภาพเป็นปกติได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเสื่อมไปตามกาลเวลา และทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
- รักษาศีลมั่นคง ดำรงจิตอยู่ในศีลเป็นปกติ
- ทำลายความใคร่ในกามารมณ์ให้สิ้นไปจากใจ รู้อยู่เสมอว่าความรักเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
- มีจิตใจเมตตาปราณี ไม่จองล้างจองผลาญคิดทำอันตรายใคร
- ไม่มัวเมาในรูปฌาน ไม่สนใจใยดีในความดีที่ตนยังไม่ได้
- ไม่มัวเมาอรูปฌาน โดยคิดว่าความดีเพียงเท่านี้ยังไม่สิ้นทุกข์
- มีอารมณ์เป็นปกติ มีจิตใจที่เต็มไปด้วยความหวังดี
- ไม่ถือตนว่าเป็นคนดี ทะนงตนว่าดีเลิศประเสริฐกว่าใคร
- ตัดความรักใคร่ในโลกีย์วิสัยให้หมด ทำอารมณ์เป็นพระพุทธในพระอุโบสถ คือ จะดีจะชั่วก็ยิ้ม เพราะเห็นเป็นธรรมดา รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ไม่สะดุ้งหวาดกลัว มีอารมณ์ใจปกติ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่ผูกพันทรัพย์สิ้นหรือสัตว์หรือบุคคลอื่น เท่านี้ก็ไปพระนิพพานได้
|
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ตอบลบA giver is always be love. _/|\_