พระเจ้าอู่ทองมาจากไหน?

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always beloved.

มีหลายคนยังคลางแคลงสงสัยว่าพระเจ้าอู่ทองผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา พระองค์เป็นขอม หรือเขมร มาอ่านบทความที่คัดลอกมา การสันนิษฐานที่มาและ วัฒนธรรมต่างๆของเขมรที่เข้ามาสู่อยุธยา เพราะเหตุใด
    สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นผู้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. 1893 ซึ่งไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่า พระองค์สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ใด และมีถิ่นกำเนิดเดิมมาจากที่ใด มีข้อสันนิษฐานในเรื่องดังกล่าว 3 ประการ ดังนี้
     1. มีถิ่นกำเนิดเดิมมาจากเมืองอู่ทอง แคว้นสุพรรณภูมิ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1890 เมืองอู่ทองซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่ง แม่น้ำจระเข้สามพัน ประสบภัยธรรมชาติ ลำน้ำจระเข้สามพันตื้นเขิน ขาดแคลนน้ำ จึงเกิดโรคระบาด (โรคห่าหรืออหิวาตกโรค) มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก พระเจ้าอู่ทองจึงทรงทิ้งเมือง อพยพผู้คนข้ามฟากแม่น้ำมาตั้งเมืองใหม่ที่บริเวณตำบลหนองโสน (บึงพระราม) ใช้เวลาสร้างเมืองใหม่ 3 ปี และสถาปนาขึ้นเป็นกรุงศรีอยุธยา ราชธานีแห่งใหม่ ใน พ.ศ.1893
   * มีถิ่นกำเนิดเดิมมาจากเมืองอโยธยา บริเวณปากแม่น้ำลพบุรี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นละโว้ โดยพระเจ้าอู่ทองทรงอพยพไพร่พลทิ้งเมืองอโยธยา หนีภัยอหิวาตกโรคระบาด มาสร้างเมืองใหม่เช่นกัน(ข้อสันนิษฐานนี้ ก็คือเมื่อพระเจ้าอู่ทองมาจากละโว้ ***ในสมัยขอมเรืองอำนาจ ในสมัยต่อมา พวกไทย-ลาว ที่อยู่หนาแน่นตอนบนๆ ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา และบริเวณสองฝั่งแม่น้ำโขง ต่างเรียกพวกละโว้ว่าขอม หรือขอมละโว้ อันนี้จึงมีผู้เขื่อว่าพระเจ้าอู่ทองเป็น ขอมหรือเขมร)
   * มีฐานะเป็นพระราชโอรสของแคว้นละโว้ พระราชบิดาของพระเจ้าอู่ทองเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นละโว้ และมอบหมายให้พระเจ้าอู่ทองไปครองเมืองเพชรบุรี ในฐานะเมืองลูกหลวง ครั้งเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระเจ้าอู่ทองจึงเสด็จกลับมาครองราชวมบัติในแคว้นละโว้ และต่อมาได้ย้ายมาตั้งราชธานีแห่งใหม่ที่กรุงศรีอยุธยา.  
    •••การถือกำเนิดของอาณาจักรอยุธยา ใน พ.ศ. 1893 เป็นช่วงที่อาณาจักรสุโขทัย ซึ่งเป็นอาณาจักรของคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งทางตอนบนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเสื่อมอำนาจลง ตรงกับรัชการพระมหาธรรมราชาลิไทยแห่งกรุงสุโขทัย ในขณะที่ดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างก็ยังคงมีแคว้นของผู้คนตั้งบ้านเมืองมั่นคงเป็นปึกแผ่นอยู่ก่อนแล้ว ได้แก่ ลพบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งต่อมาถูกรวมให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาในที่สุดปัจจัยที่สนับสนุนให้การสถาปนากรุงศรีอยุธยาประสบความสำเร็จ
     ภายหลังการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา(พระเจ้าอู่ทอง)พยายามสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นให้แก่อาณาจักร โดยการดำเนินการทางการเมือง ดังต่อไปนี้ (ขออนุญาตคัดเอกสารมาเฉพาะการขยายอำนาจไปทางทิศตะวันออกคือเขมร หรือขอมเท่านั้นเพื่อเป็นข้อมูลยืนยันว่าพระเจ้าอู่ทองไม่ได้เป็นขอม หรือเขมร)
   การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรเขมร เนื่องจากเขมรเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้มาก่อน มีอาณาจักรตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของอยุธยา ทำให้คนกรุงศรีอยุธยาเกิดความหวาดระแวงไม่ปลอดภัย
รัชกาลพระเจ้าอู่ทอง ได้ส่งกองทัพอยุธยาไปตีเขมร  2   ครั้ง ใน พ .ศ. 1895 และ 1896 ทำให้เขมรเสื่อมอำนาจลง ต้องย้ายเมืองหลวงหนี ทางฝ่ายไทยได้กวาดต้อนพราหมณ์ในราชสำนักเขมรมายังกรุงศรีอยุธยา
    ***เป็นผลให้เกิดการแพร่หลาย ศิลปวัฒนธรรมเขมรในไทยมากขึ้น(นี่คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใดวัฒนธรรเขมรถึงมาอยู่และแพร่หลายในกรุงศรีอยุธยาขณะที่พระเจ้าอู่ทองเป็นกษัตริย์)
    แต่ถ้าจะล้วงกันให้ลึกเข้าไปจริงๆ พระเจ้าอู่ทองอาจเป็นขอมก็ได้ดังที่คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ ว่าไว้ “ศูนย์กลาง ขอม ครั้งแรกอยู่ที่รัฐละโว้ (ลพบุรี) ต่อมาย้ายลงไปอยู่ที่อโยธยาศรีรามเทพ (ต่อไปคือกรุงศรีอยุธยา) แล้วขยายไปอยู่กัมพูชา”(ดังนั้นเป็นเหตุผลที่เชื่อได้ว่าพระเจ้าอู่ทองไม่ได้มาจากเขมร)
    ***แล้วขอมมาจากไหน !?!?
      ขอม ไม่ใช่ชื่อชนชาติเฉพาะ ฉะนั้นชนชาติขอมจึงไม่มีจริง แต่ ขอม เป็นชื่อทางวัฒนธรรม ใช้สมมุติเรียกอย่างยกย่องคนบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่นับถือศาสนาพราหมณ์ (ฮินดู) และพุทธมหายาน แล้วใช้ภาษาเขมรสื่อสารในชีวิตประจำวัน กับใช้อักษรเขมรในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
เช่นเดียวกับคำว่าแขก ใช้สมมุติเรียกผู้นับถือศาสนาอิสลาม และคำว่าฝรั่ง หรือคริสต์ ใช้สมมุติเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์
    การค้นคว้าคัดลอกในครั้งนี้ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ว่าปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา อาจเคยถูกเรียกว่าพวกขอมเพราะมาจากลพบุรี(ละโว้ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของขอม)แต่พระองค์ไม่ใช่เขมรแน่นอน
cr : https://sites.google.com,
https://www.matichon.co.th
ผู้เขียน สุจิตต์ วงษ์เทศ
เผยแพร่ วันที่ 8 มิถุนายน 2559
ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
http://abhinop.blogspot.com
http://abhinop.bloggang.com
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always beloved.