วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กัณฑ์กุมาร

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

ข้อคิดประจำกัณฑ์  กัณฑ์กุมาร

พระเวสสันดรตรัสเรียกลูกกณหาชาลีขึ้น
จากสระ เพื่อนำไปให้ทานแก่ชูชก
   1. ความเป็นผู้รู้จักกาลเทศะ ไม่ผลีผลามเข้าไปขอ รอจนพระมัทรีเข้าป่า  จึงเข้าเฝ้าเพื่อขอสองกุมารเป็นเหตุให้ชูชกประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนา  ดังภาษิตโบราณว่า  “ช้าๆ จะได้พร้าเล่มงาม  ด่วนได้ สามชผลีผลาม มักพลิกแพลง ’’   ฆ่าช้าเป็นการ  นานเป็นคุณ  รู้จักโอกาสมีมารยาท กล้าพูด  กล้าหาญใจเย็น  เป็นสำเร็จเพราะ  “ถ้อยคำของคน  ขัดความปรารถนาเป็นของคนยากเป็นโชคลาภ และเสียงเพลงของนักบุญ ’’
    2. พ่อแม่ทุกคนรักลูกเหมือนกัน  แต่เป็นห่วง....ไม่เท่ากัน  ห่วงหญิงมากกว่าห่วงชาย เพราะท่านเปรียบไว้ว่า “ลูกผู้หญิงเหมือนข้าวสาร  ลูกผู้ชายเหมือนข้าวเปลือก’’ หญิงนั่นยิ่งโตเป็นสาว  ก็ยิ่งยุ่ง ยิ่งสวยก็ยิ่งยุ่ง..........!
    3. สติ  เ ตํ นิวารณํ  สติเป็นเครื่องป้องกันอันตรายทั้งปวงได้   ขนฺติ สาหสาวารณา ขันติ  ป้องกันความหุนหันพันแล่นได้เป็นเหตุให้พระเวชสันดร  ไม่ปรหารชูชกด้วยพระขรรค์เมื่อถูกชูชกประณามและเฆี่ยนตี ชาลี – กัญหา ต่อเฉพาะพระพักตร
    4. วิสัยหญิงนั้น แม้จะมากอยู่ด้วยเมตตากรุณา ชอบปลดเปลื้องทุกข์แก่ผู้อื่นก็จริงแต่เว้นอย่าง   ที่หญิงไม่มีวันจะสละสิ่งนั้นคือ  “ลูก’’!

 ความย่อ

กัณฑ์ที่ 8 กุมาร มี 101 พระคาถา
เมื่อชูชกเดินทางตามที่อจุตฤาษีแนะนำ  เวลาเย็นก็ถึงเขาวงกตใกล้อาศรมพระเวสสันดร  แกก็ดีใจมาก  ตรึกตรองหาโอกาส จะเข้าพบพระเวสสันดร  เห็นว่าเวลานี้พระนางมัทรีกลับจากป่า หากไปขอจักไม่สำเร็จ  ควรไปเวลาเช้า  เมื่อพระนางมัทรีเข้าป่าแล้ว  ครั้นขอ สอง กุมารได้แล้ว  ก็จะรีบกลับก่อนพระนางมัทรีกลับจากป่า ดำริแล้วก็หลบเข้าไปนอนในซอกเขาเพื่อลี้ภัยจากสัตว์ ร้าย
คืนนั้นพระนางมัทรีฝันร้าย  เป็นลางบอกให้รู้ล่วงหน้าว่า  จะพลัดพรากจากพระโอรส  พระนางได้เฝ้าทูลถามพระเวชสันดร  ขอให้ทรงแก้ฝัน พระเวชสันดรก็ไม่ทรงแก้ ตรัสบ่ายเบียง ว่า มาตกระกำลำบากหลับนอนไม่ผาสุกเหมือนอยู่วัง  ก็ฝันไปตามสภาพยากไร้  พระนางหาแน้พระทัยเชื่อไม่ ดังนั้นครั้นรุ่งเช้า เวลาจะเช้าป่าเป็นห่วงพระโอรส จึงได้พาพระลูกเจ้า ทั้งสององค์มาฝากพระเวสสันดร  ให้ทรงช่วยดูแล ทั้งกำชับพระโอรสไว้แข็งแรง ไม่ให้ออกนอกบริเวณพระอาศรม จึงได้เข้าป่าแสวงหาผลไม้อันเป็นกิจวัตร ที่ทรงทำอยู่เป็นประจำวัน
ฝ่ายชูชกครั้นเห็นว่า เวลานี้พระนางมัทรีเข้าป่าแล้ว จึงได้เดินทางไปเฝ้าพระเวสสันดรที่อาศรม ทูลขอสองกุมาร  พระเวสสันดรก็ประทานให้  แต่ตรัสว่าขอให้รอพระนางมัทรีก่อน ให้ชูชกค้างสัก 1  ราตรีชูชกไม่เห็นด้วย ทูลว่า ถ้ารอพระนางมันทรีก่อน ให้ชูชกเป็นเหตุขัดข้อง พระเวสสันดรรับสั่งว่า เมื่อเอาสองกุมารไปจงเอาไปถวายพระเจ้าสัญชัยราช  ณ  พระนครสีพี   จะได้รับพระราชทานรางวัลมากชูชกค้านว่า  ถ้าไปพบพระเจ้าสันชัยราชอาจถูกจับได้ว่า ไปลักพระเจ้าหลานมา กับจะเป็นโทษ องการจะเอาไปใช้เป็นทาสเอง ขณะที่ชูชกทูลขอ สองกุมารอยู่นั้นชาลี  กัญหา   สองกุมารได้ยินกลัวจะถูกชูชกเอาตัวต่อ  จึงพากันหนีไปซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำ เอาใบบัวบังศรีสะเสีย
เมื่อชูชกไม่เห็นสองกุมาร  ก็ทูลตรัส พ้อ พระเวสสันดร  จนท้าวเธอต้องเสด็จไปติดตาม  ครั้นทราบว่าไปซ่อนอยู่ในสระ  ก็ตรัสเรียกขึ้นมา แล้วตรัสปลอบโยนให้หายกลัว  และเศร้าโศก  พร้อมกับคาดราคาโดยสั่งชาลีกุมารไว้ว่า ถ้าจะไถ่ให้พ้นจากทาส สำหรับชาลีกุมาร  ต้องไถ่ด้วยทองหนัก แท่งหนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง  ส่วนนางกัญหานั้นต้องไถ่ด้วยทาสชายหญิง  ช้าง ม้า โค  รถ อย่างร้อยละร้อย กับทองแท่ง หนัก 5 พันตำลึง แล้วทรงพามามอบให้ชูชก
ครั้นชูชกได้สองกุมารแล้ว  ก็เอาเถาวัลย์ผูกข้อมือสองกุมารไป เมื่ออิดเอื้อน ร้องไห้ ไม่ด่วนไปตามประสงค์ของแก แกก็ตีด่าตามประสาคนสันดานทราม ถึงกับดาลใจพระเวสสันดร ให้พลุ่ง ด้วยโทสะเกิดโทมนัส น้อยพระทัย  คิดจะประหารชูชก เอาพระโอรสคืนมาเสียแต่ก็กลับหักพระทัยด้วยขันติ ไว้ได้ ปล่อยให้ชูชก พาสองกุมารไปตามปรารถนา
จบความย่อ
ปี่พาทย์ทำเพลงเฉิดฉิ่งโอด
อานิสงส์
ผู้บูชากัณฑ์กุมารย่อมประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาครั้นที่ตายไปแล้วได้เกิดในฉกามาพจรสวรรค์    ในสัมยพระศรีอริยเมตไตรยมาอุบัติ  ก็จะได้พบศาสนาของพระอง๕แล้วบรรลุพระอรหันตตผล   พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง  4  ด้วยบุญราศีที่อบรมไว้

1 ความคิดเห็น:

  1. ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always be love. _/|\_

    ตอบลบ