วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อายุวัฒนกุมารผู้ดวงชะตาขาด

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

อายุวัฒนกุมาร ผู้ดวงชะตาขาด

เรื่องอายุวัฒนกุมาร ผู้ดวงชะตาขาด แต่สามารถแก้กรรม ต่ออายุให้ยืนยาวได้

คนบางคนเมื่อรู้ว่าชะตาขาด สามารถต่อชะตาต่ออายุให้ยืนยาวได้ โดยการกระทำความดี ดังตัวอย่างของเรื่องอายุวัฒนกุมาร ผู้ที่ได้รับการทำนายว่าจะตายภายใน 7 วัน แต่สามารถแก้กรรมแก้ชะตาขาดนั้น และมีอายุยืนยาวถึง 120 ปี ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์(สาธยายพระปริตร)เป็นเวลา 7 วันและถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข จึงเป็นที่มาของพิธีต่ออายุ และพิธีสืบชะตา ของชาวพุทธจวบจนกระทั่งทุกวันนี้


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระศาสดา ทรงอาศัยทีฆลัมพิกนคร ประทับอยู่ ณ กุฎีในป่า ทรงปรารภกุมารผู้มีอายุยืน ตรัสพระธรรมเทศนาที่ขึ้นต้นด้วยบาทพระคาถานี้ว่า อภิวาทนสีลิสฺส เป็นต้น

พระพุทธโฆษาจารย์ เล่าเรื่องนี้ไว้ว่า ครั้งหนึ่ง มีพราหมณ์ 2 คน เป็นชาวทีฆลัมพิกนคร ได้ไปบวชบำเพ็ญตบะอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 48 ปี ต่อมาพราหมณ์คนหนึ่งสึกออกไปเป็นฆราวาส และได้แต่งงานมีครอบครัว หลังจากภรรยาของพราหมณ์ผู้นี้คลอดบุตรออกมาเป็นชายแล้ว พราหมณ์ก็ได้พาภรรยากับบุตรไปเยี่ยมพราหมณ์ที่ยังบวชบำเพ็ญตบะอยู่นั้น

เมื่อสองสามีภรรยาทำความเคารพ พราหมณ์นักบวชได้กล่าวว่า “ขอท่านจงเป็นผู้มีอายุยืน” แต่พอตอนที่สองสามีภรรยาให้บุตรชายทำความเคารพบ้าง พราหมณ์นั้นกลับนิ่ง ไม่พูดอะไร พราหมณ์ที่สึกออกไปมีครอบครัวเกิดความสงสัย จึงได้สอบถามถึงเหตุผลที่นิ่งเงียบนั้น

พราหมณ์นักบวชจึงบอกว่า ทารกคนนี้จะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน แต่ตนก็ไม่ทราบวิธีป้องกันการเสียชีวิตของทารกนี้ และได้แนะนำให้ไปทูลถามพระศาสดา

สองสามีภรรยาจึงอุ้มบุตรไปเฝ้าพระศาสดา เมื่อคนทั้งสองกราบนมัสการ พระศาสดาตรัสว่า “ขอท่านจงเป็นผู้มีอายุยืน” แต่พอพาเด็กเข้าไปนมัสการ พระศาสดากลับทรงนิ่งเสีย และได้ทรงทำนายว่าเ ด็กคนนี้จะเสียชีวิตภายใน 7 วันเหมือนกัน

แต่พระศาสดาได้ตรัสบอกวิธีที่จะป้องกันทารกจากเสียชีวิต โดยให้สร้างมณฑปไว้ที่ประตูเรือนของพราหมณ์ แล้วนำเด็กขึ้นไปนอนบนมณฑปนั้น จากนั้นก็ให้นิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์สวดพระปริตรเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งพราหมณ์ก็ได้กระทำตามที่ทรงแนะนำทุกอย่าง

ในวันที่ 7 พระศาสดาได้เสด็จมายังมณฑปนั้นด้วย พวกเทวดาในจักรวาลทั้งสิ้นก็ได้มาประชุมกัน ณ ที่นั้นด้วย ในขณะนั้น อวรุทธยักษ์ตนหนึ่งได้มาที่ประตูบ้านเพื่อคอยจังหวะที่จะจับเด็กทารกนั้นไปกิน แต่เมื่อมีเทวดาศักดิ์ใหญ่มากันมาก พวกเทวดาศักดิ์น้อยก็จะต้องถอยร่นเพื่อเปิดที่ให้

อวรุทธกยักษ์ก็ต้องถอยร่นไปอยู่ไกลจากเด็กทารกนั้นถึง 12 โยชน์ ตลอดคืนที่ 7 นั้นพระภิกษุสงฆ์ก็ได้เจริญพระปริตรอยู่อย่างนั้นจนสว่าง ทำให้อวรุทธยักษ์ไม่สามารถเข้ามาจับทารกนั้นไปกินได้

พออรุณขึ้นสองสามีภรรยานำทารกมาถวายบังคมพระศาสดา พระศาสดาตรัสว่า “ขอเจ้าจงมีอายุยืนเถิด” เมื่อสองสามีภรรยาทูลถามว่าทารกจะมีอายุยืนกี่ปี พระศาสดาตรัสว่าจะมีอายุยืน 120 ปี สามีภรรยาจึงตั้งชื่อเด็กทารกว่า “อายุวัฒนกุมาร”

เมื่ออายุวัฒนกุมารเติบโตแล้ว เวลาไปไหนมาไหนก็มีผู้ติดตามไปเป็นบริวารถึง 500 คน วันหนึ่งอายุวัฒนกุมารพร้อมกับบริวารได้มาที่วัดพระเชตวัน ภิกษุทั้งหลายจำได้ จึงทูลถามพระศาสดาว่า “เหตุเครื่องเจริญอายุของสัตว์เหล่านี้ เห็นจะมี” พระศาสดาตรัสตอบภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ว่า “โดยการนอบน้อมท่านผู้สูงอายุ มิใช่ว่าจะทำให้อายุยืนเท่านั้น แต่ยังจะเป็นเหตุให้เจริญทางวรรณะ สุขะ และพละ อีกด้วย”

จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 109 ว่า

อภิวาทนสีลิสฺส
นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ
อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ ฯ

(อ่านว่า)

อะพิวาทะนะสีลิดสะ
นิดจัง วุดทาปะจายิโน
จัดตาโร ทำมา วัดทันติ
อายุ วันโน สุขัง พะลัง.

(แปลว่า)

ผู้ชอบกราบไหว้ นอบน้อม
ผู้ใหญ่เป็นนิตย์
จะเจริญด้วยพร 4 ประการ
คือ มีอายุยืน มีผิวพรรณผุดผ่อง
มีความสุข มีพลานามัยแข็งแรง.

เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา อายุวัฒนกุมาร และบริวาร 500 คน ได้บรรลุโสดาปัตติผล แม้ชนเหล่าอื่นเป็นอันมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.



1 ความคิดเห็น:

  1. ททมาโน ปิโย โหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always beloved. _/|\_

    ตอบลบ