วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

พระเจ้ากรุงธนบุรี

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช
      สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช หรือพระบรมราชาที่ 4 หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
     ชาวไทยได้ถวายการเรียกขานพระนามด้วยความจงรักภักดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันไม่อาจจะบรรยายออกมาได้
     จนกระทั่งใช้คำว่าพ่อตาก ที่แสดงถึงความสนิทชิดเชื้อกับพระองค์ท่านต่อมาเมื่อรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์มากขึ้นจึงขนานนามพระองค์ใหม่ว่า พระเจ้าตากสิน เพื่อให้สมกับ ที่เคารพบูชา
     ชาติกำเนิดพระเจ้าตากสินทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายนพุทธศักราช 2277 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 5 ปีขาลจุลศักราช 1096 เวลาประมาณ 11:00 น
     ในแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยาศรีรามเทพนคร พระเจ้าตากสินกำเนิดจากสามัญชนคนธรรมดาในสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 หรือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศในพ.ศ 2275 ถึง 2301 ซึ่งในสมัยนั้นการค้ากับเมืองจีนมีความรุ่งเรืองราบรื่น อีกครั้งสัมพันธภาพระหว่าง 2 ราชสำนักนั้นมีความสนิทแน่นแฟ้นกันดี
ราชพงศาวดาร ฉบับหลวง พบว่า 
     พระเจ้าตากสินทรงเป็นสามัญชน ถือกำเนิดในตระกูลแซ่แต้ มีพระนามเดิมว่า สิน พระบิดานั้น เป็นคนจีนชื่อไหฮอง มาจากเมือง เฉาโจว แซ่แต้ เมื่อมาถึงเมืองไทย เปลี่ยนเป็น หยง
     จีนหยง อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยและได้สมรสกับหญิงไทยเมืองราชบุรีชื่อ นกเอี้ยง จีนหยงเป็นคนขยันขันแข็งและการทำอาหารกินฉลาดมีความสามารถทางการค้าต่อมาได้เข้ามาอาศัยพึ่งบุญบารมีของเจ้าพระยาจักรี (โรงฆ้อง)
     จีนหยง ได้ปลูกเรือนอยู่ตรงข้ามกับบ้านของเจ้าพระยาจักรี มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก เจ้าพระยาจักรีจึงเสนอทางการให้แต่งตั้งจีนหยงเป็นนายอากรบ่อนเบี้ย ดูแลบ่อนการพนันมีบรรดาศักดิ์เป็นขุนพัฒน์
     จึงเป็นคหบดีมีฐานะความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างร่ำรวยมีข้าทาสบริวารหญิงชายมากมายปัจจุบันบ้านของเจ้าพระยาจักรีคือบริเวณโรงแรมศรีอยุธยาธานี บ้านขุนพัฒน์คือบริเวณที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ปรีดีพนมยงค์
     ในปีพศ. 2277 นางนกเอี้ยงฝันว่าชีปะขาวนำแก้วมณีสดใสขาววาวจับใจมามอบให้ 1 ดวงนางนั้นน้อมรับด้วยความเต็มใจ และเมื่อตั้งครรภ์ได้ครบ 10 เดือนได้คลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชายมีรูปพรรณงดงามรูปกายนั้นมีลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตามตำราว่า ด้วย "มหาปุริสลักษณะ"
     กุมารบุตรจีนมีลักษณะตามตำรามหาปุริสลักษณะ กล่าวคือวัดจากฝ่าเท้าถึงศูนย์กลางสะดือเท่ากับสะดือถึงหน้าผาก วัดจากปลายสุดนิ้ว กลางมือซ้ายถึงปลายสุดนิ้วกลางมือขวาเท่ากับวัดจากฝ่าเท้าถึงหน้าผาก เรียกว่า "จัตุรัสกาย"
     และในวันคลอดฟ้าผ่าลงมาที่เสากลางเรือนที่คลอด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ต่อมาอีก 3 วันบิดามารดาพบงูเหลือมตัวใหญ่ เท่าคนขาผู้ใหญ่ขดอยู่รอบกายกุมารในกระด้งเป็นทักษิณาวรรต (เวียนขวา)
เครดิต ; FB ต้นสาระ
ดร .สุวิจักขณ์ ภานุสรณ์ฐากูร
.....................................................
ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
http://abhinop.blogspot.com
http://abhinop.bloggang.com
.....................................................
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
A giver is always be love.
.....................................................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น