วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564

วัดนางชี

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก A giver is always beloved.

วัดนางชี ที่ชาวบ้านชอบเรียกขานโดยทั่วกันนั้นมีชื่อพระราชทานว่า วัดนางชีโชติการาม สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เมื่อ พ.ศ. 2078 ตรงกับรัชสมัยพระชัยราชาธิราช สร้างแล้วเสร็จประมาณ พ.ศ. 2081-2082  เป็นวัดริมน้ำสงบร่มรื่นขณะนี้พระอุโบสถกำลังบูรณะอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ  และภายในวัดก็ชำรุดทรุดโทรไปตามกาลเวลา
การเดินทางไม่ยากครับ นั่งรถประจำทาง สาย 4 หรือสาย 9 มาลงป้ายที่ลงจากสะพานวัดนางชีแล้วเดินเข้าได้ 2 ทาง คือ 1 .จากซอยวัดนางชีเองเป็นซอยเล็กๆรถสวนกันลำบาก หรือ
2. เดินทะลุมาจากวัดนาคปรกจะสะดวกกว่า
ตามประวัติความเป็นมาของวัดสืบเนื่องมาจากลูกสาว เจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรีชื่อแม่อิ่ม ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุจนกระทั่ง มีชีปะขาวมานิมิตเข้าฝันด้วยการให้ลูกสาวทำการบวชชี เจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรีจึงได้ให้แม่อิ่มลูกสาวท่านบวชชีพร้อมสร้างวัด ซึ่งประกอบด้วยโบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระปรางค์และศาลาการเปรียญ ครบครันขึ้นเป็นวัดอย่างสมบูรณ์แต่ปัจจุบันไม่มีซากหลงเหลืออยู่จะมี ก็แต่องค์พระประธานในพระอุโบสถและพระพุทธรูปปางต่างๆ ในโบสถ์ เจดีย์คู่วัด และพระปรางค์ คณะผู้สร้างวัดนางชีประกอบด้วยผู้ร่วมทำ การสร้าง 3 ท่าน คือ
1.เจ้าพระยาพิชิตชัยมนตรี
2.พระยาฤาชัยณรงค์
3.ออกหลวงเสนาสมุทร
วัดนี้ก็มีความเจริญรุ่งเรืองเสมอมาจนกระทั่ง สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศ วัดนี้ได้กลายเป็นวัดร้าง เมื่อถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนปลายรัชกาลที่ 1 สมเด็จพระรูปสิริโสภาคย์มหานาคนารีเป็นพระสัสสุใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปฏิขรณ์จึงให้ชื่อว่า วัดนางชี เพื่อเป็นการอนุสรณ์ในการบวชชีของพระองค์
ท่านพระยาโชฎึกราชเศรษฐีได้มีจิตศรัทธาร่วมพระองค์ ได้มีจิตศรัทธาร่วมบูรณะปฎิสังขรณ์ด้วยโดย ทำเป็นศิลปะแบบจีนประดับประดาด้วยเครื่องเคลือบประดับมุก ลับแล หรือฉากบังเตียงแกะฉลุลายไทย ฝีมือจีน ฯลฯ ถวายให้เป็นสมบัติของวัดนางชี  ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาราชานุชิตได้บูรณะ วัดซึ่งกำลังทรุดโทรมขึ้มมาใหม่ทั้งวัด อาราม เช่นพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ เสนาสนะต่างๆ ให้รื้อของเก่าแล้วสร้างใหม่โดยเฉพาะ หลังคา พระอุโบสถสร้างตามแบบที่นิยมกันตามแบบ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าอยู่หัว คือไม่มีช่อฟ้าใบระกา และหางหงส์(เน้นความคงทน การดูแลรักษาง่าย)
สิ่งสำคัญภายในวัดนางชี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงทำการค้ากับจีน ทรงสั่งทำเครื่องเคลือบรูปเรือสำเภา อันเป็นเครื่องหมายการค้าให้อนุชนได้ศึกษา โดยทรงได้พระราชทาน วัดนางชี 1 คู่ พระประดับหน้าบันพระวิหารที่สร้างตามศิลปะแบบจีน นอกจากนี้ได้พระราชทานเสาหินเทียบเรือพระที่นั่งซึ่งทรงสั่งมาจาก ประเทศจีนให้แก่วัดนางชี บัดนี้ทางวัดได้นำมาขึ้นเสาป้ายหน้าวัด ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งปรากฎในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันว่าเมื่อ พ.ศ.2422 พระปิยมหาราชเจ้า ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มาวัดนางชีเพื่อพระราชทานพระกฐิน
วัดนางชีเป็นวัดเดียวที่ยังมี ประเพณี"ชักพระวัดนางชี" ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น "งานแห่พระบรมสารีริกธาตุวัดนางชี" ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวฝั่งธนบุรี ได้ถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาในวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ของทุกปี ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่าร้อยปีแล้ว
..................
ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
My blogs link 👆
https://sites.google.com/site/dhammatharn/
http://abhinop.blogspot.com
http://abhinop.bloggang.com
..................


1 ความคิดเห็น:

  1. ยังมีสาระเรื่องราวดี ๆ ที่อยากเล่าตามมาดูเราได้ที่ ;
    My blogs link 👆
    https://sites.google.com/site/dhammatharn/
    http://abhinop.blogspot.com
    http://abhinop.bloggang.com
    ..........................................................
    ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always beloved.

    ตอบลบ