วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นางกาไว จันทบุรี

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

เรื่อง นางกาไว
เนื้อเรื่อง
..............นานมาแล้วนับพันปีมีเมืองๆ หนึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงเขาสระบาปมีเจ้าผู้ครองเมืองสืบราชสันติวงศ์มาหลายสมัย จนถึงสมัยของพระเจ้าพรหมทัต ซึ่งมีโอรสกับเอกอัครมเหสี ๒ พระองค์ คือ พระไวยทัต และพระเกตุทัต ต่อมาพระมเหสีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าพรหมทัตจึงมีมเหสีใหม่มีพระนามว่า "พระนางกาไว" และมีโอรสด้วยกัน
๑ พระองค์ ไม่ปรากฏพระนาม พระนางกาไวมีรูปสมบัติความงามเป็นเลิศ แต่จิตใจมักใหญ่ใฝ่สูงนัก ต้องการให้บุตรของตนขึ้นครองราชย์แทนพระบิดาต่อไป ทำให้โอรสทั้ง ๒ ของพระมเหสีองค์แรกต้องออกจากเมือง จึงทูลขอให้พระเจ้าพรหมทัตส่งพระโอรสทั้งสองไปสร้างเมืองใหม่ในที่ที่กันดาร เมื่อพระเจ้าพรหมทัตได้ฟังแล้วก็ ทรงถามความเห็นในที่ประชุมขุนนาง ทุกคนก็เห็นดีด้วย พระไวยทัตกับพระเกตุทัตจำใจต้องไปสร้างเมืองใหม่ โดยขอคัดเลือกคนไปด้วย เอาเฉพาะคนหนุ่มฉกรรจ์แข็งแรง มีฝีมือในการรบ พร้อมทั้งแบ่งครอบครัวผู้คนพลเมืองพากันไปสร้างเมืองใหม่เรียกเมืองนั้นว่า "เมืองสามสิบ" (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอโป่งน้ำร้อน) ใกล้ชายแดนกัมพูชา พระไวยทัตกับพระเกตุทัตก็รีบเร่งซ่องสุมผู้คนไว้เป็นกำลัง ต่อเมื่อพระเจ้าพรหมทัตสิ้นพระชนม์พระนางกาไวจึงแต่งตั้งบุตรของตนเป็นเจ้าเมืองแทน แต่เนื่องจาก
พระโอรสยังทรงพระเยาว์พระนางจึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทน ชาวบ้านจึงเรียกเมืองๆ นั้นว่า "เมืองกาไว" ฝ่ายพระไวยทัตกับพระเกตุทัตทราบเรื่องว่าพระราชบิดาสิ้นพระชนม์จึงยกทัพลงมาเพื่อชิงเมืองคืน แต่ กองทัพของพระไวยทัตกับพระเกตุทัต สู้กำลังกองทัพของพระนางกาไวไม่ได้ จึงถอยทัพไปและขอกำลังจาก กษัตริย์ขอมซึ่งประทับอยู่ ณ เมืองนครธม ช่วยแก้แค้นโดยสัญญาว่า ถ้าตีเมืองได้แล้วจะแบ่งเมืองให้กึ่งหนึ่ง กษัตริย์ขอมส่งกองทัพมาช่วยและยกมาตั้ง พลับพลา พักพลอยู่นอกเมือง ตำบลที่พักพลนี้เรียกว่า
"พลับพลา" ในปัจจุบันบริเวณนี้เรียกว่า ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เมื่อส่งคนไปเจรจาไม่ได้ผล กองทัพของพระยาไวยทัตและขอมก็เข้าตีเมืองกาไว พระนางกาไวเห็นว่า สู้ไม่ได้จึงขนทรัพย์สมบัติขึ้นหลังช้างและหนีออกมาได้ทางประตูเมืองด้านทิศใต้ พอกองทัพของพระไวยทัต
เข้าเมืองได้ก็ให้ทหารติดตามไป พระนางกาไวเห็นว่าจวนตัวก็เอาทองเพชรพลอยออกหว่านโปรย เพื่อล่อ ทหารข้าศึกให้พะวงเก็บทอง แล้วรีบหนีลงเรือสถานที่ที่พระนางกาไวหว่านทองคำไว้เรียกว่า "บ้านทองทั่ว" (ปัจจุบันก็คือ บริเวณวัดทองทั่วเพนียดช้างก็ยังอยู่จนบัดนี้ทำด้วยศิลาแลง)
คติ/แนวคิด
.................ตำนานเรื่องนางกาไวเป็นตำนานที่บ่งบอกถึงประวัติชื่อบ้านนามเมืองของจันทบุรี ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานเรื่องนี้ เช่น เพนียด กาไว สามสิบ พลับพลา และทองทั่ว นอกจากนี้ยังให้แนวคิดว่าความโลภไม่เกิดประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น

1 ความคิดเห็น:

  1. ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always beloved. _/|\_

    ตอบลบ