ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดอัญชนวัน เมืองสาเกต ทรงปรารภพราหมณ์ผู้หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า …
เช้าตรู่วันหนึ่ง พระพุทธองค์ พร้อมหมู่ภิกษุสงฆ์ ได้เข้าไปบิณฑบาตในเมืองสาเกตพบพราหมณ์ผู้หนึ่งเดินสวนไปนอกเมือง แล้วกรูเข้ามาหมอบแทบเท้าจับข้อเท้าไว้แน่นแล้วพลางกล่าวว่า
” ลูก ธรรมดาบุตร ต้องปรนนิบัติมารดาบิดา ในยามแก่ชรามิใช่หรือ ทำไม ลูกจึงไม่มาเยี่ยมเราเลย ไป พ่อจะพาไปพบแม่เจ้า ”
แล้วจึงนำไปเรือนของตน
” ลูก ธรรมดาบุตร ต้องปรนนิบัติมารดาบิดา ในยามแก่ชรามิใช่หรือ ทำไม ลูกจึงไม่มาเยี่ยมเราเลย ไป พ่อจะพาไปพบแม่เจ้า ”
แล้วจึงนำไปเรือนของตน
พระพุทธองค์ประทับนั่งเหนืออาสนะพร้อมภิกษุสงฆ์ นางพราหมณีมาหมอบแทบเท้าแล้วร่ำไห้คร่ำครวญเช่นกันกับพราหมณ์แล้วแนะนำให้บุตรธิดาไหว้พี่ชาย วันนั้น ครอบครัวของพราหมณ์ได้ถวายมหาทานแก่พระพุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์ พระพุทธองค์ได้ตรัสชราสูตรทำให้พราหมณ์ทั้งสองเป็นอนาคามีแล้วเสด็จกลับวัด
ตอนเย็นพวกภิกษุตั้งความสงสัยว่า
” ทำไม พราหมณ์ทั้งสองจึงเรียกตนเองว่า เป็นพ่อเป็นแม่ของพระตถาคต ”
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า
” พราหมณ์เคยเป็นพ่อของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นอา ๕๐๐ ชาติ เป็นปู่ ๕๐๐ ชาติ นางพราหมณีเคยเป็นมารดาของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นน้า ๕๐๐ ชาติ เป็นย่า ๕๐๐ ชาติติดต่อกันไม่ขาดสาย ”
แล้วได้ตรัสพระคาถาว่า
” บุคคลมีจิตใจจดจ่อและเลื่อมใสอยู่ในผู้ใด บุคคลพึงคุ้นเคยสนิทสนมในผู้นั้น
แม้ทั้ง ๆ ที่ ไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลย ”
” ทำไม พราหมณ์ทั้งสองจึงเรียกตนเองว่า เป็นพ่อเป็นแม่ของพระตถาคต ”
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า
” พราหมณ์เคยเป็นพ่อของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นอา ๕๐๐ ชาติ เป็นปู่ ๕๐๐ ชาติ นางพราหมณีเคยเป็นมารดาของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นน้า ๕๐๐ ชาติ เป็นย่า ๕๐๐ ชาติติดต่อกันไม่ขาดสาย ”
แล้วได้ตรัสพระคาถาว่า
” บุคคลมีจิตใจจดจ่อและเลื่อมใสอยู่ในผู้ใด บุคคลพึงคุ้นเคยสนิทสนมในผู้นั้น
แม้ทั้ง ๆ ที่ ไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลย ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนจะเป็นญาติมิตรสหายกันเป็นเรื่องอดีตชาติแต่ปางก่อน
คนจะเป็นญาติมิตรสหายกันเป็นเรื่องอดีตชาติแต่ปางก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น