วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตำนานรักพระลอ แพร่

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา


จังหวัดแพร่
ตำนานรักพระลอ
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับไหล ลืมตื่น ฤาพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ
..........................ตำนานรักพระลอ เป็นนิยายรักอมตะ ที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่งที่เขียนไว้ในวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ เชื่อกันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอสอง จังหวัดแพร่ เพราะมีหลักฐานหลายอย่างสอดคล้องกันเช่น เมืองสรอง ซึ่งเป็นเมืองของพระเพื่อนพระแพงผู้เลอโฉม สันนิษฐานว่าคือ เมืองสอง (อ.สอง) ของจังหวัดแพร่
ในปัจจุบัน มีแม่น้ำกาหลงไหลผ่าน มีเด่นนางฟ้อน บ้านแดนชุมพล ถ้ำปู่เจ้าสมิงพราย ผาปี่ผาน้อง และที่ เวียงสรองยัง ปรากฎซากแนวกำแพงเมืองถึง ๓ ชั้น ให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนบริเวณที่ติดกับอำเภอสอง คือจังหวัดพระเยา มีทุ่งลอ นักวิชาการเชื่อกันว่าเป็นดินแดนเมืองแมนสรวงของพระลอ เมื่อคิดคำนวณระยะทางในการเดินทัพของพระลอมายังเมืองสรอง ในยุคนั้น ก็ใกล้เคียง สอดคล้องกับที่พรรณนาไว้ในลิลิตพระลอ จึงน่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอาณาเขตจังหวัดแพร่ น่าน พะเยา และลำปาง
............................เนื้อเรื่อง ตำนานรักพระลอ ความว่า เดิมเจ้าราชวงศ์แมนสรวงกับเจ้าราชวงศ์สรองเป็นปรปักษ์ต่อกัน แต่โอรสและธิดาของ ๒ เมืองนี้เกิดรักกันและยอมตายด้วยกัน ฝ่ายชายคือพระลอเป็นกษัตริย์แห่งเมือง แมนสรวง มีพระชายาชื่อนางลักษณวดี พระลอเป็นหนุ่มรูปงามมากเป็นที่เลื่องลือไปทั่วจนทำให้พระเพื่อน พระแพงเกิดความรักและปรารถนาที่จะได้พระลอมาเป็นสวามี
พี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพง ชื่อนางรื่นนางโรย ได้ออกอุบายส่งคนไปขับซอยอโฉมพระเพื่อนพระแพง ให้พระลอฟัง และให้ปู่เจ้าสมิงพรายทำเสน่ห์ให้พระลอเกิดความรักหลงใหลคิดเสด็จไปหานาง ฝ่ายพระนางบุญเหลือชนนีของพระลอทราบ จึงหาหมอแก้เสน่ห์ได้ แต่ปู่เจ้าสมิงพรายได้เสกสลาเหิน (หมากเหิน) มาให้พระลอเสวยในตอนหลังอีก ถึงกับหลงใหลธิดาทั้งสองมากขึ้น จึงทูลลาชนนีและพระนาง
ลักษณวดีไปยังเมืองสรอง พร้อมกับนายแก้วนายขวัญพี่เลี้ยง เมื่อมาถึงแม่น้ำกาหลงได้เสี่ยงทายกับแม่น้ำ แม่น้ำกลับวนและเป็นสีเลือด ซึ่งทายว่าไม่ดี แต่พระลอก็ยังติดตามไก่ที่ปู่เจ้าสมิงพรายเสกมนต์ล่อพระลอให้ หลงเข้าไปในสวนหลวง แล้วแอบได้พระธิดาทั้งสองเป็นชายา นายแก้วนายขวัญก็ได้กับนางรื่นนางโรยพี่เลี้ยง
..........................เมื่อพระพิชัยพิษณุกร พระบิดาของพระเพื่อนพระแพงทราบเรื่องก็ทรงกริ้ว แต่พอทรงพิจารณาเห็นว่า พระลอมีศักดิ์เสมอกันก็หายกริ้ว แต่พระเจ้าย่า (ย่าเลี้ยง) ของพระเพื่อนพระแพงโกรธมาก เพราะแค้นที่ พระบิดาของพระลอได้ประหารท้าวพิมพิสาคร พระสวามีในที่รบ พระเจ้าย่าถือว่าพระลอเป็นศัตรู จึงสั่งทหาร
ให้ไปล้อมพระลอที่ตำหนักกลางสวน และสั่งประหารด้วยธนู ทั้งพระลอ พระเพื่อน พระแพง และนายแก้ว นายขวัญ นางรื่น นางโรย ร่วมกันต่อสู้ทหารของพระเจ้าย่าอย่างทรหด จนสุดท้ายถูกธนูตายในลักษณะพิงกัน ตายด้วยความรักทั้ง ๓ องค์
..........................ท้าวพิชัยพิษณุกร ทรงทราบว่าพระเจ้าย่าสั่งให้ทหารฆ่าพระลอพร้อมพระธิดาทั้งสององค์ ทรงกริ้วและ สั่งประหารพระเจ้าย่า (เพราะมิใช่ชนนี) เสีย แล้วโปรดให้จัดการพระศพพระลอกับพระธิดาร่วมกันอย่าง สมเกียรติ และส่งทูตนำสาส์นไปถวายพระนางบุญเหลือ ชนนีของพระลอที่เมืองสรวง สุดท้ายเมืองสรองกับ
เมืองแมนสรวงกลับมีสัมพันธไมตรีกันต่อมา
คติและแนวคิด
...........................ตำนานรักพระลอเป็นนิยายพื้นบ้านที่ให้รสวรรณคดีทุกรส ได้แก่ ความรัก ความโศก กล้าหาญ และเสียสละ ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงผลเสียของความแค้น ความอาฆาต พยาบาท ตลอดจนอนุภาพแห่งความรักที่เป็นอมตะรักของพระลอ พระเพื่อนพระแพง

2 ความคิดเห็น:

  1. ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always be love. _/|\_

    ตอบลบ
  2. ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
    A giver is always beloved. _/|\_

    ตอบลบ