ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภพระเทวทัตผู้แสดงท่าทางเอาอย่างพระองค์แล้วถึงความพินาศ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระราชา ครองเมืองมิถิลา แคว้นวิเทหะ สมัยนั้น พญาหงส์ตัวหนึ่ง มีเมียตัวหนึ่งเป็นนางนกกา ทำรังอยู่ที่ต้นตาล ใกล้โรงอาหาร มีลูกด้วยกันตัวหนึ่ง เป็นตัวผู้หน้าตา่ไม่เหมือนพ่อแม่ จึงตั้งชื่อว่า วินีลกะ เพราะมันมีสีค่อนข้างคล้ำ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระราชา ครองเมืองมิถิลา แคว้นวิเทหะ สมัยนั้น พญาหงส์ตัวหนึ่ง มีเมียตัวหนึ่งเป็นนางนกกา ทำรังอยู่ที่ต้นตาล ใกล้โรงอาหาร มีลูกด้วยกันตัวหนึ่ง เป็นตัวผู้หน้าตา่ไม่เหมือนพ่อแม่ จึงตั้งชื่อว่า วินีลกะ เพราะมันมีสีค่อนข้างคล้ำ
อนึ่ง พญาหงส์นั้นมีลูกหงส์อยู่ก่อนแล้ว ๒ ตัว ลูกหงส์เห็นพญาหงส์ไปถิ่นมนุษย์ บ่อยนักจึงถามพ่อว่าไปทำไม พญาหงส์จึงบอกลูกว่า
“ลูกรัก..พ่อไปเยี่ยมน้องของพวกเจ้าชื่อวินีลกะที่เกิดจากนางนกกานะ”
ลูกถามว่า “พวกเขาอยู่ตรงไหนละครับพ่อ ”
พ่อตอบว่า “อยู่ยอดต้นตาลตรงโน้น ใกล้เมืองมิถิลาจ้าลูก”
ลูกพูดว่า “พวกผมจะไปพาเขามานะครับพ่อ”
พ่อห้ามว่า “อย่าไปเลยลูก ถิ่นมนุษย์มันมีภัยอันตรายรอบด้าน พ่อจะพาเขามาเอง”
“ลูกรัก..พ่อไปเยี่ยมน้องของพวกเจ้าชื่อวินีลกะที่เกิดจากนางนกกานะ”
ลูกถามว่า “พวกเขาอยู่ตรงไหนละครับพ่อ ”
พ่อตอบว่า “อยู่ยอดต้นตาลตรงโน้น ใกล้เมืองมิถิลาจ้าลูก”
ลูกพูดว่า “พวกผมจะไปพาเขามานะครับพ่อ”
พ่อห้ามว่า “อย่าไปเลยลูก ถิ่นมนุษย์มันมีภัยอันตรายรอบด้าน พ่อจะพาเขามาเอง”
ลูกหงส์ทั้งสองหาเชื่อคำของพ่อไม่ ได้อาสาไปนำนกวินีลกะมา จึงพากันไปที่ต้นตาลนั้น ให้นกวินีลกะจับคอนไม้อันหนึ่งแล้ว ช่วยกันคาบปลายไม้คนละข้าง บิินผ่านเมืองมิถิลามา
ขณะนั้น พระราชากำลังประทับบนราชรถเทียมม้าสีขาวปลอด ๔ ตัว ทรงทำประทักษิณพระนครอยู่ นกวินีลกะเห็นเช่นนั้นแล้วก็นึกในใจว่า
“เราก็ไม่ต่างจากพระราชาเลยนะ ได้นั่งบนรถเทียมหงส์เลียบพระนคร”
จึงพูดเปรย ๆ ขึ้นว่า “ม้าอาชาไนยพาพระเจ้าวิเทหะผู้ครองเมืองมิถิลาให้เสด็จไป เหมือนหงส์สองตัวพาเราผู้ชื่อว่าวินีลกะไปจริง ๆหนอ”
ลูกหงส์พอได้ฟังคำนั้นแล้วโกรธ ตั้งใจว่าจะปล่อยให้มันตกลงไปเสียก็กลัวพ่อจะตำหนิเอา จึงอดทนไว้พามันไปจนถึงรังแล้วเล่าให้พ่อฟัง พญาหงส์โกรธจัดตวาดว่า
“เจ้าวิเศษกว่าลูกเราเชียหรือ จึงเปรียบเปรยลูกเราเหมือนม้าเทียมรถ เจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตนเอง ที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของเจ้า เจ้าจงกลับไปหาแม่เจ้าเถิด”
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
“เจ้าวินีลกะ เจ้ามาอยู่อาศัยซอกเขาอันมิใช่พื้นเพเดิมของเจ้า เจ้าจงไปอยู่อาศัยสถานที่ใกล้หมู่บ้านเถิด นั้นเป็นที่อยู่อาศัยของแม่เจ้า”
ขณะนั้น พระราชากำลังประทับบนราชรถเทียมม้าสีขาวปลอด ๔ ตัว ทรงทำประทักษิณพระนครอยู่ นกวินีลกะเห็นเช่นนั้นแล้วก็นึกในใจว่า
“เราก็ไม่ต่างจากพระราชาเลยนะ ได้นั่งบนรถเทียมหงส์เลียบพระนคร”
จึงพูดเปรย ๆ ขึ้นว่า “ม้าอาชาไนยพาพระเจ้าวิเทหะผู้ครองเมืองมิถิลาให้เสด็จไป เหมือนหงส์สองตัวพาเราผู้ชื่อว่าวินีลกะไปจริง ๆหนอ”
ลูกหงส์พอได้ฟังคำนั้นแล้วโกรธ ตั้งใจว่าจะปล่อยให้มันตกลงไปเสียก็กลัวพ่อจะตำหนิเอา จึงอดทนไว้พามันไปจนถึงรังแล้วเล่าให้พ่อฟัง พญาหงส์โกรธจัดตวาดว่า
“เจ้าวิเศษกว่าลูกเราเชียหรือ จึงเปรียบเปรยลูกเราเหมือนม้าเทียมรถ เจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตนเอง ที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของเจ้า เจ้าจงกลับไปหาแม่เจ้าเถิด”
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
“เจ้าวินีลกะ เจ้ามาอยู่อาศัยซอกเขาอันมิใช่พื้นเพเดิมของเจ้า เจ้าจงไปอยู่อาศัยสถานที่ใกล้หมู่บ้านเถิด นั้นเป็นที่อยู่อาศัยของแม่เจ้า”
แล้วสั่งให้ลูกหงส์นำมันกลับไปปล่อยไว้ที่เดิม
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : อย่ายกตนข่มท่าน จะนำความลำบากมาให้
อย่าพูดทั้งหมดที่คิด
ตอบลบททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ตอบลบA giver is always be love. _/|\_
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ตอบลบA giver is always beloved. _/|\_