สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่โฆสิตาราม เมืองโกสัมพี ทรงปรารภพระสาคตเถระเรื่องดื่มสุรา เรื่องมีอยู่ว่า
หลังจำพรรษาที่เมืองสาวัตถีแล้ว พระพุทธองค์พร้อมพระภิกษุสงฆ์ มีพระสาคตเถระเป็นพระอุปัฏฐาก ได้จาริกไปจนถึงภัททวติกานิคม ถึงแม้พวกชาวบ้านที่เห็นแล้วพากันมา กราบทูลไม่ให้เสด็จไปท่าอัมพะ เพราะอัมพติฏฐกนาค มีพิษร้ายจะทำอันตรายก็ตาม ก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินถ้อยคำของคนเหล่านั้น เสด็จเข้าไปปูลาดหญ้านั่งขัดสมาธิอยู่ในที่อยู่ของนาคนั้น ส่วนพระสาคตเถระเข้าไปใกล้อาศรมนาคแล้วปูลาดหญ้านั่งขัดสมาธิอยู่ใกล้ๆนาคนั้น นาคได้แสดงฤทธิ์ บังหวลควันและทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้น พระเถระก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน ได้ปราบนาคให้หมดฤทธิ์ตั้งอยู่ในศีล ในเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
รุ่งเช้า พระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกได้เข้าไปในเมืองโกสัมพี เรื่องราวที่พระสาคตเถระปราบนาคได้แพร่กระจายไปทั่วเมือง ฝูงชนชาวเมืองโกสัมพี ทำการต้อนรับพระพุทธองค์แล้วไปไหว้พระสาคตเถระ พร้อมกับปวารณาว่า ” ถ้าพระเถระต้องการอะไรที่หาได้ยาก จงบอก จะจัดถวาย ” พระเถระกลับนั่งนิ่งเสียไม่พูดว่าอะไร แต่พวกภิกษุหัวดื้อฉัพพัคคีย์ พากันบอกฝูงชนว่า ” โยม สุราสีแดงดุจเท้านกพิราบสิ บรรพชิตหาได้ยาก และเป็นของชอบใจของพระเถระด้วย ” ชาวเมืองได้นิมนต์พระพุทธองค์พร้อมพระสงฆ์สาวกฉันในวันพรุ่งนี้
ในตอนเช้า ชาวเมืองต่างก็พากันจัดเตรียมสุราสีแดงดุจเท้านกพิราบไว้ถวายพระเถระทุกเรือน พระเถระดื่มสุราแล้วเมา เดินไปล้มลงที่ประตูเมืองนอนบ่นพร่ำเพ้ออยู่ เมื่อพระพุทธองค์ฉันเสร็จได้เสด็จกลับ พบพระเถระนอนอยู่เช่นนั้น จึงรับสั่งให้ประคองพระเถระนอนหันศีรษะไปทางพระบาทของพระองค์ พระเถระกลับนอนเหยียดเท้าไปทางพระพักตร์ของพระพุทธองค์ พระองค์จึงทรงตรัสโทษของการดื่มสุราว่า
” พระสาคตะเคยเคารพในเรา บัดนี้ไม่มีแล้ว เคยเป็นผู้มีความสามารถปราบพญานาคได้ บัดนี้ไม่มีแรงที่จะปราบแม้กระทั่งงูปลา ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่ดื่มแล้ว ปราศจากความจำได้หมายรู้ สิ่งนั้นภิกษุไม่ควรดื่ม ”
แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทว่า เป็นปาจิตตีย์ในเพราะดื่มสุราเมรัย
” พระสาคตะเคยเคารพในเรา บัดนี้ไม่มีแล้ว เคยเป็นผู้มีความสามารถปราบพญานาคได้ บัดนี้ไม่มีแรงที่จะปราบแม้กระทั่งงูปลา ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่ดื่มแล้ว ปราศจากความจำได้หมายรู้ สิ่งนั้นภิกษุไม่ควรดื่ม ”
แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทว่า เป็นปาจิตตีย์ในเพราะดื่มสุราเมรัย
ในตอนเย็น พวกภิกษุประชุมกันในธรรมสภาพูดถึงโทษของการดื่มสุรา พระพุทธองค์ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในกรุงพาราณสี แคว้นกาสี มีฤาษีอยู่ประมาณ ๕๐๐ รูป ได้อภิญญาและสมาบัติ อาศัยอยู่ในป่าหิมวันตะ ครั้นถึงฤดูฝนจึงอำลาอาจารย์เพื่อเข้าเมืองถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ ทำให้ประชาชนและพระราชาเลื่อมใสแล้ว พักอยู่ในพระราชอุทยาน ต่อมาวันหนึ่งในเมืองพาราณสีมีเทศกาลดื่มสุรา พระราชาดำริว่า พวกบรรพชิต หาสุราได้ยาก จึงรับสั่งให้ถวายสุราอย่างดี เป็นอันมากแก่ฤาษี
พวกฤาษีดื่มสุราแล้วเมา บางพวกลุกขึ้นฟ้อนรำ บางพวกขับร้องจนหลับไป พอสร่างเมาพากันตื่นขึ้นมาเห็นอาการอันแปลกของพวกตน ก็เสียใจว่าไม่ควรทำ จึงพากันกลับไปหาอาจารย์ เล่าเรื่องนั้นให้แก่อาจารย์ฟังว่า
” พวกกระผมได้พากันดื่ม ได้พากันฟ้อนรำ พากันขับร้องแล้ว ก็พากันร้องไห้
เพราะดื่มสุราที่ทำให้สัญญาวิปริต เห็นดีแต่ที่มิได้กลายเป็นลิงไปเสียเลย ”
” พวกกระผมได้พากันดื่ม ได้พากันฟ้อนรำ พากันขับร้องแล้ว ก็พากันร้องไห้
เพราะดื่มสุราที่ทำให้สัญญาวิปริต เห็นดีแต่ที่มิได้กลายเป็นลิงไปเสียเลย ”
อาจารย์ได้สอนว่า ” ธรรมดานรชนที่เหินห่างจากการอยู่ร่วมกับครู ย่อมเป็นเช่นนี้ได้ทั้งนั้น ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
โทษของการดื่มสุรา เป็นเหตุให้คนทำในสิ่งที่ไม่กล้าทำได้้
โทษของการดื่มสุรา เป็นเหตุให้คนทำในสิ่งที่ไม่กล้าทำได้้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น