ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดตโปทาราม เมืองราชคฤห์ ทรงปรารถพระสมิทธิเถระ ผู้ถูกนางเทพธิดาชักชวนให้เสพกาม ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรฌานสมาบัติอยู่ใกล้สระน้ำำในป่าหิมพานต์ วันหนึ่งท่านได้บำเพ็ญเพียรตลอดทั้งคืนพอสว่างแล้วจึงไปอาบน้ำในสระเสร็จแล้วได้มายืนอาบแดดอยู่ ในขณะนั้นมีเทพธิดานางหนึ่งมองเห็นรูปโฉมความงามของร่างกายท่านแล้วเกิดความรักและมีความกำหนัดขึ้น จึงพูดเชิญชวนเสียแล้ว ท่านเสพกามเสียก่อนแล้วจึงออกบวชจะไม่ดีกว่าหรือ ท่านอย่าได้ปล่อยให้วัยและเวลาเสพกามล่วงเลยไปเสีย ขอเชิญท่านมาเสพกามเถิด”
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรฌานสมาบัติอยู่ใกล้สระน้ำำในป่าหิมพานต์ วันหนึ่งท่านได้บำเพ็ญเพียรตลอดทั้งคืนพอสว่างแล้วจึงไปอาบน้ำในสระเสร็จแล้วได้มายืนอาบแดดอยู่ ในขณะนั้นมีเทพธิดานางหนึ่งมองเห็นรูปโฉมความงามของร่างกายท่านแล้วเกิดความรักและมีความกำหนัดขึ้น จึงพูดเชิญชวนเสียแล้ว ท่านเสพกามเสียก่อนแล้วจึงออกบวชจะไม่ดีกว่าหรือ ท่านอย่าได้ปล่อยให้วัยและเวลาเสพกามล่วงเลยไปเสีย ขอเชิญท่านมาเสพกามเถิด”
ฤาษีโพธิสัตว์ได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวตอบเป็นคาถาว่า
“เราไม่รู้เวลาตายของตนเลย เวลาตายยังปกปิดอยุ่หาปรากฎไม่ เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บริโภคกามมาเที่ยวภิกขาจารอยู่ ขอเวลาบำเพ็ญสมณธรรมอย่าล่วงเลยเราไปเสีย บุคคลแม้เป็นอติบัณฑิต ก็ไม่รู้ถึงฐานะ ๕ อย่าง อันไม่มีนิมิตรในโลกนี้ คือ ชีวิต ๑ พยาธิ ๑ เวลา ๑ ที่ตาย ๑ ที่ไป ๑”
เทพธิดาได้ฟังคำนั้นแล้วเกิดความละอายใจ ก็หายร่างไปจากที่ตรงนั้นทันที
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : อย่าได้ประมาทในวัยและชีวิตเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะตายในวันไหน ควรรีบเร่งทำความดีแข่งกันกับวันและเวลาเถิดท่านทั้งหลาย
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ตอบลบA giver is always be love. _/|\_
ททมาโน ปิโยโหติ #ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก
ตอบลบA giver is always beloved. _/|\_