วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นกคุ่มโพธิสัตว์

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า เมื่อคราวเสด็จเที่ยวจาริกไปในมคธชนบททั้งหลาย ทรงปรารภการดับไฟป่า
เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง พระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ได้ไปบิณฑบาตในหมู่บ้านชาวมคธแห่งหนึ่ง ฉันเสร็จแล้วเสด็จไปตามทาง วันนั้น เกิดไฟป่ารอบด้าน พวกภิกษุปุถุชนต่างกลัวตายจึงพากันจะดับไฟ ถูกพวกภิกษุห้ามไว้และให้อยู่ในอาการที่สงบ ไฟป่าไหม้มารอบด้าน พอใกล้เข้ามาหาพื้นที่พระพุทธองค์และหมู่สงฆ์อยู่ก็ดับไปเอง สร้างความแปลกประหลาดใจแก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อคลายความสงสัยของพวกภิกษุ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกคุ่มผัวเมียคู่หนึ่งกำลังมีลูกน้อยตัวหนึ่ง ทุกวันนกคุ่มผัวเมียจะออกจากรังไปหาอาหารมาป้อนลูกนกอยู่เป็นประจำ
วันหนึ่ง เกิดไฟไหม้ป่ารอบข้าง นกต่างๆ รวมทั้งนกคุ่มสองผัวเมีย ได้บินออกจากรังไป เพราะกลัวตาย ปล่อยให้นกคุ่มลูกน้อยนอนผจญภัยอยู่ตามลำพัง นกคุ่มน้อยเมื่อเห็นไฟไหม้ใกล้เข้ามา จึงรำลึกถึงคุณแห่งศีลว่า
     ” คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก ความสัจ ความสะอาด และความเอ็นดู มีอยู่ในโลก
       ด้วยความสัจนั้น ข้าพเจ้าจักทำสัจกิริยาอันยอดเยี่ยม ข้าพเจ้าพิจารณากำลังแห่งธรรม
       ระลึกถึงพระชินเจ้าทั้งหลายในปางก่อน อาศัยกำลังสัจจะ ขอทำสัจจกิริยา ”
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
     ” ปีกของเรา มีอยู่ แต่ก็บินไม่ได้ เท้าทั้งสองของเรา มีอยู่แต่ก็เดินไม่ได้
       มารดาและบิดาของเรา ออกไปหาอาหาร นี่ไฟป่า ท่านจงถอยกลับไปเสีย ”
ด้วยอำนาจแห่งการทำสัจกิริยาของลูกนกคุ่มไฟป่าได้ดับลงไปหมดสิ้น

  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
  คุณของศีลทำให้รอดพ้นภัยวิบัติได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น