วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พระปฐมเจดีย์

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

องค์พระปฐมเจดีย์
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ ณ วัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
ประวัติความเป็นมา
................องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สร้างในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อครั้งพระองค์โปรดให้สมณทูตมาประกาศพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ นักปราชญ์ทางโบราณคดี มีความเห็นตรงกันว่าสมณทูตในครั้งนั้นคือ พระโสณเถระ และพระอุตรเถระ คณะ สมณทูตได้เดินทางมาถึงเมืองถมทอง หรือนครปฐม เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕ การเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้ดำเนิน ตลอดมาโดย มีกษัตริย์ที่ปกครองดินแดนในสุวรรณภูมิ ยอมรับพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จน ถึงปี พ.ศ.๒๔๖ พระโสณเถระได้ให้สร้างวัดขึ้น เป็นแห่งแรกในเขตสุวรรณภูมิ ที่เมืองถมทองนี้ ต่อมาได้มีการ สร้างพระสถูปเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๖๕ พระภูริยเถระผู้ทำนิมิตพัทธสีมาตั้งชื่อวัดว่า "วัดพุทธบรมธาตุ" ซึ่งถือว่าเป็นวัดแรกและพระเจดีย์องค์แรกของพระพุทธศาสนาในดินแดนแถบนี้ พระปฐมเจดีย์นี้เดิมเป็นสถูปรูปบาตรคว่ำ แบบสัญจิเจดีย์ในประเทศอินเดีย
................. การบูรณะปฏิสังขรณ์พระสถูปเจดีย์ได้กระทำอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนถึงสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์โปรดให้วัดขนาดขององค์พระเจดีย์ รวมความสูง ๔๐ วา ๒ ศอก ต่อมา ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จธุดงค์มานมัสการพระเจดีย์นี้ และเมื่อพระองค์เสด็จขึ้น
ครองราชย์ ก็ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์ก่อพระเจดีย์ใหม่ห่อหุ้มองค์เดิมไว้ เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๖ มีขนาดสูง ๑๒๐ เมตร ๔๕ เซนติเมตร มีลักษณะเป็นพระเจดีย์รูประฆังคว่ำปากผาย โครงสร้างเป็นไม้ซุง ก่ออิฐถือปูนประดับด้วย กระเบื้องมีพระวิหารทั้งสี่ทิศ เชื่อมต่อด้วยคตพระระเบียง การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ แล้วพระราชทานนามว่า
"พระปฐมเจดีย์" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกยอดพระมหามงกุฎของพระปฐมเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๓ และต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรด ให้มีการซ่อมพระวิหารหลวง เขียนภาพตัดขวางให้เห็นพระปฐมเจดีย์องค์เดิม ซ่อมพระวิหารด้านทิศเหนือ
และอัญเชิญพระร่วงโรจนฤทธิ์ มาประดิษฐานในพระวิหารด้านทิศเหนือนี้ การบูรณะปฏิสังขรณ์ พระปฐมเจดีย์ได้ กระทำอย่างต่อเนื่อง และจริงจังในสมัยรัชกาลปัจจุบัน โดยใช้หลักวิทยาการสมัยใหม่ เพื่ออนุรักษ์พระปฐมเจดีย์นี้ให้มั่นคงถาวรอยู่คู่ฟ้าเมืองไทยตลอดไป
ลักษณะทั่วไป
..................มีลักษณะเป็นพระเจดีย์รูประฆังคว่ำปากผาย ขนาดสูง ๑๒๐ เมตร ๔๕ เซนติเมตร โครงสร้างเป็น ไม้ซุง ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยกระเบื้องมีพระวิหารทั้งสี่ทิศ เชื่อมต่อด้วยคตพระระเบียง
ความสัมพันธ์กับชุมชน
๑. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระมหาสถูปเจดีย์ที่สำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทยแสดง ให้เห็นถึงการเผยแผ่ และการตั้งมั่นของพระพุทธศาสนา ในดินแดนนี้
๒. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นสถาปัตยกรรมไทยที่วิวัฒนาการรูปแบบมาจากรูปลักษณ์เดิม สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช และเจดีย์ยอดพระปรางค์ในสมัยขอมเรืองอำนาจ ปัจจุบันเป็นผลงานรวมของศิลปกรรมไทย ที่มีเอกลักษณ์ไทยโดดเด่น ทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม และประติมากรรม วิศวกรรม และจิตรกรรม
๓. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าพระเจดีย์ชะเวดากองในประเทศพม่า
๔. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่ง คณะสมณทูตได้รับพระราชทานมาจากพระเจ้าอโศก ตั้งแต่ครั้งเดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็น ครั้งแรกในดินแดนสุวรรณภูมิ
๕. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นที่รวมของศิลปวัตถุ และหลักฐานสำคัญทางพุทธศาสนาเป็นอันมาก เป็นต้นว่าวิหารทั้งสี่ พระพุทธรูปปางต่าง ๆ วิหารคต จารึกพระธรรมคำสอนเป็นอักษรขอม พระพุทธรูป ศิลาขาว จิตรกรรมฝาผนัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ เป็นต้น ที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งก็คือ
พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ ที่มีขนาดสูงถึง ๑๒ ศอก ๔ นิ้ว นับเป็นพระพุทธรูปที่ สวยงามอย่างยิ่ง และได้รับการเคารพนับถือ จากพุทธศาสนิกชนทั่วไป
๖. องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะชาว จังหวัด นครปฐม องค์พระปฐมเจดีย์นั้นถือเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทุกชนิด ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ไม่ว่าจะ เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง ศาสนา การศึกษา และพาณิชยกรรม ก็ล้วนถือเอาองค์
พระปฐมเจดีย์เป็นศูนย์กลางทั้งสิ้น
เส้นทางเข้าสู่พระปฐมเจดีย์
................ปัจจุบันการเดินทางไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นไปโดยสะดวก จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ ๒ ทาง คือทางรถไฟ และรถยนต์
ทางรถไฟ โดยสารรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือ สถานีรถไฟบางกอกน้อย มาลงที่สถานีรถไฟนครปฐม ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมงเศษ
ทางรถยนต์ จากกรุงเทพฯ มาตามเส้นทางถนนเพชรเกษม หรือ ถนนปิ่นเกล้า- นครชัยศรี ใช้เวลาเดิน ทางประมาณ ๑ ชั่วโมง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น