วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หมอผู้โชคร้าย

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

หมอผู้โชคร้าย



ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารถพระเทวทัตผู้ไม่อาจทำความสะดุ้งกลัวแก่พระองค์ได้จึงตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

าลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นลูกชายพ่อค้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นเด็กมีอายุได้ ๗-๘ ขวบ วันหนึ่ง ขณะกำลังเล่นอยู่ใต้ต้นไทรหน้าบ้านกับเพื่อนวัยเดียวกันนั้นเอง มีหมอร่างกายพิการคนหนึ่งไม่ได้ทำงานอะไร จึงเดินออกจากบ้านมาพบเด็กกำลังเล่นอยู่ เหลือบไปเห็นงูตัวหนึ่งโผล่หัวออกมาจากโพรงไม้ คิดวางแผนไว้ในใจว่า

"เราเดือดร้องเงินไม่มีใครว่าจ้างเราน่าจะล่อเด็กพวกนี้ให้งูกัด แล้วเราจะได้รักษามีเงินใช้"

คิดได้แล้วก็เรียกเด็กลูกชายพ่อค้ามาหาแล้วพูดว่า

"หลานชาย.. เจ้าอยากได้นกสาลิกาไหม นั้นไงบนต้นไม้นั้น มันอยู่ในโพรงนั่นเอง"

ลูกชายพ่อค้าไม่รู้ว่ามันเป็นงู จึงปีนต้นไม้ขึ้นไปจับถูกคองู พอรู้ว่ามันเป็นงูเห่าเท่านั้นก็รีบเหวี่ยงทิ้งไป บังเอิญว่างูนั้นถูกเหวี่ยงไปทางหมอร่างกายพิการคนนั้นพอดี งูรัดคอและก็กัดไปหลายทีพิษงูทำให้หมอนั้นล้มลงเสียชีวิตไปทันทีอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถเยียวยาได้ทัน เสร็จแล้วงูก็เลื้อยเข้าป่า ชาวบ้านต่างพากันมุงดูร่างกายของหมอที่นอนตายอย่างน่าสมเพช

พระพุทธองค์เมื่อตรัสอดีตนิทานจบแล้วจึงตรัสพระคาถาว่า

"ผู้ใดประทุษร้ายคนไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่มีความผิด บาปย่อมกลับมาถึงคนพาลนั้นเองเอง เหมือนละอองฝุ่นที่บุคคลชัดไปทวนลม ย่อมกลับมากระทบเขาเอง ฉะนั้น"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวอย่าคิดทำร้ายคนอื่น เพราะตนเองนั้นแหละจะเดือดร้อนเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น