วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ท้าวปาจิตต์กับนางอรพิมพ์

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

ท้าวปาจิตต์กับนางอรพิมพ์

ในครั้งหนึ่งนานมาแล้วกษัตริย์ขอมพระองค์หนึ่งมีราชโอรสชื่อท้าวปาจิตต์ เมื่ออายุได้ 6 พรรษา พระราชบิดาจะจัดการอภิเษกให้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ ถึงจะหาราชธิดาเมืองใดมาให้เลือก พระราชโอรสก็ไม่ต้องพระประสงค์ โหรหลวงทำนายว่า เนื้อคู่ของพระองค์ยังอยู่ในครรภ์ของหญิงหม้ายอนาถา ให้ท้าวปาจิตต์เดินทางไปทิศตะวันออกแล้วจะพบหญิงหม้ายผู้นั้น โดยมีลักษณะที่สังเกตได้คือแสงอาทิตย์จะทรงกลดเป็นเงากั้นเบื้องบนศรีษะ
ท้าวปาจิตต์ก็ออกเดินหาหญิงหม้ายผู้นั้น จนไปพบนางบัว ชาวบ้านสัมฤทธิ์ยังมีครรภ์อยู่มีลักษณะตามที่โหรได้ทายไว้ จึงอาสาฝากตัวเป็นคนใช้ ครั้นนางบัวคลอดบุตรเป็นหญิงมีลักษณะดีก็ช่วยนางบัวเาว ให้ชื่อว่า นางอรพิมพ์ รูปโฉมงดงามมาก ท้าวปาจิตต์ลากลับบ้านเมืองเพื่อจัดขันหมากมาสู่ขอตามประเพณี พอขันหมากมาถึงบ้านกงรถก็ทราบว่า ท้าวพรหมทัต มาลักตัวนางอรพิมพ์ไปเสียแล้ว ก็เสียพระทัยเลยโยนขันหมากทิ้งน้ำเสียหมด ลำน้ำนั้นต่อมาคือ ลำปลายมาศ
ท้าวปาจิตต์ได้แฝงกายเข้าไปในปราสาทท้าวพรหมทัตและได้ทำอุบายฆ่าท้าวพรหมทัตเสีย พานางอรพิมพ์หลบหนีออกมาได้ ระหว่างทางท้าวปาจิตต์ได้ถูกนายพรานฆ่าตาย นางอรพิมพ์จึงฆ่าพรานเสีย และชุบชีวิตท้าวปาจิตต์ ด้วยยาวิเศษจากเทวดา และเดินทางกันต่อไปถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งอาศัยเณรส่งข้ามฟากให้ เณรลวงท้าวปาจิตต์ให้ขึ้นฝั่งก่อนแล้วพานางอรพิมพ์หนีไป นางอรพิมพ์ลวงให้เณรขึ้นต้นมะเดื่อแล้วเอาหนามมาสะไว้ใต้ต้น และพายเรือมาหาท้าวปาจิตต์ก็ไม่พบ นางจึงปลอมเป็นชาย และได้รักษาธิดาเจ้าเมืองจำปานครให้ฟื้น เจ้าเมืองยกเมืองและธิดาให้แต่นางปฏิเสธ และได้บวชเป็นสังฆราชของเมืองนั้น นางได้สร้างศาลาและมีรูปวาดเรื่องราวของนางกับท้าวปาจิตต์ไว้ และสั่งว่าถ้าผู้ใดดูภาพเหล่านี้แล้วร้องไห้ให้แจ้งให้นางทราบในที่สุดท้าวปาจิตต์และนางก็ได้พบกันพากันกลับบ้านเมืองและอยู่ครองกันมีความสุขสืบมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น