จังหวัดหนองคาย
ชื่อเรื่อง ท้าวศรีธนมโนห์รา
เนื้อเรื่อง
...................กล่าวถึงนายพรานได้จับนางโนห์ราที่พากันลงมาเล่นน้ำที่สระอโนดาตมาถวายท้าวศรีธน กษัตริย์เมืองเปงจานนครราช ทั้งสองเกิดความพึงพอใจต่อกันจนเกิดเป็นความรัก จึงได้จัดพิธีอภิเษกให้นางมโนห์รา เป็นมเหสีของท้าวศรีธน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่นางทั้ง ๗ ซึ่งเป็นลูกสาวปุโรหิตยิ่งนัก จึงคิดกลั่นแกล้งด้วยวิธี การกราบทูลให้ท้าวศรีธนออกไปรบกับข้าศึกที่ยกกองทัพมาประชิดชายแดนเมืองเปงจานนครราช ฝ่ายปุโรหิต
ได้กราบทูลพระเจ้าย่า ว่านางมโนราห์ไม่ใช่คนเป็นอมนุษย์เป็นตัวกาลีบ้านกาลีเมือง เป็นผู้ที่นำความเดือดร้อน มาสู่บ้านเมือง จึงขอให้นำเอาตัวออกไปฆ่าบูชายัญ ที่ศาลพระหลักเมือง นางมโนห์ราทราบข่าวจึงออก อุบายว่าก่อนตายจะขอร่ายรำ เพื่อขอขมาโทษต่อศาลพระหลักเมืองให้พระเจ้าย่าชมเสียก่อนจะตายและ
นางขอให้นำเอาปีกกับหางมาให้แต่งตัวด้วย เมื่อได้ปีกกับหางมาใส่แล้วนางมโนห์ราเริ่มร่ายรำด้วยท่าที อ่อนช้อยงดงาม พอได้จังหวะ และโอกาสที่นางร่ายรำท่าโฉบเฉี่ยวเล่นลม นางก็บินหนีกลับเมืองโกนจา ฝ่ายท้าวศรีธนที่ยกกองทัพออกไปรบได้รับชัยชนะ กลับมาไม่พบนางมโนห์ราก็โศกเศร้าเสียพระทัยเป็น อย่างยิ่ง จึงรีบออกติดตามหานางมโนห์ราด้วยความยากลำบากจนกระทั่งถึงแม่น้ำไม่สามารถข้ามได้ก็นั่งร้องไห้ พระอินทร์แปลงร่างเป็นชายแก่ นำเอาเรือมาให้และบอกทางที่จะไปยังเมืองของนางมโนห์ราให้ ขณะเดินทางท้าวศรีธน ได้มาพบพระฤาษีได้สอนวิชาอาคมต่าง ๆ ให้พร้อมกับมอบดาบวิเศษให้เป็นอาวุธประจำตัว จากนั้นจึงได้กราบลาพระฤาษีเดินทางต่อไปพบนกอินทรีย์แม่ลูกพูดกันว่า วันพรุ่งนี้จะพาไปกินเนื้อนางมโนห์
รา ซึ่งจะถูกประหารชีวิตเนื่องจากถูกมนุษย์จับไปแล้วหนีกลับมาได้ บิดาของนางได้ทำพิธีล้างกลิ่นสาบมนุษย์ ที่ติดตัวนางมโนห์ราให้แก่นาง แต่กลิ่นสาบมนุษย์นั้นไม่สามารถชะล้างออกได้หมดและจะต้องถูกประหารชีวิต เมื่อท้าวศรีธนได้ยินดังนั้นจึงได้ร่ายเวทย์มนต์แปลงร่างเป็นตัวไรปีนขึ้นอยู่ใต้ปีกลูกนกอินทรีย์ บินข้าม แม่น้ำไปยังเมืองภูเงิน พอรุ่งเช้านางพี่เลี้ยงได้ออกมาตักน้ำเพื่อไปทำพิธีชะล้างบาปให้นางมโนห์รา ท้าวศรีธนจึงซักถามจนทราบที่อยู่ของนางมโนห์รา หลังจากประกอบพิธีล้างบาปของนางมโนห์ราเสร็จแล้ว บิดาของนาง จึงประกาศเลือกคู่ครองให้แก่นางโดยวิธีให้ผู้ที่มีความประสงค์จะได้นางมโนห์ราไปเป็นคู่ครอง เอาพวง
มาลัยไปคล้องคอนางได้ถูกต้อง จึงจะมีสิทธิ์ได้นางไปเป็นคู่ครอง นางมโนห์ราจึงได้เอาแหวนของนางให้ พี่เลี้ยงมากระซิบบอกท้าวศรีธนว่า ให้เอาแหวนไปสวมใส่นิ้วนางกินรีทั้ง ๗ นางที่ออกมาให้เลือกคู่ทีละคน ถ้าแหวนสวมใส่นิ้วของนางผู้ใดได้พอดี นางผู้นั้นคือนางมโนห์ราตัวจริง ดังนั้นท้าวศรีธน จึงสามารถเลือกคู่ได้ นางมโนห์รา ท้าวภูเงินบิดาของนางจึงได้จัดพิธีอภิเษกให้ จากนั้นทั้งสองจึงกราบลาบิดาของนางกลับเมือง เปงจานนครราช แล้วให้จับปุโรหิตประหารชีวิต ส่วนนางสนม ๗ คน ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งทุกคน แล้วไล่ให้ไป เป็นคนเลี้ยงหมูตลอดชีวิต ซึ่งเมืองเปงจานนครราชปัจจุบันคือ บ้านเปงจาน ตำบลโพนแพง กิ่งอำเภอ รัตนวาปี จังหวัดหนองคาย โดยมีใบเสมาหินทรายเป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังมีถ้ำท้าวศรีธนและ
ถ้ำพระฤาษี ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ที่วัดถ้ำศรีธนหรือวัดสว่างอารมณ์ อำเภอปากคาด จังหวัดหนองคายทุก วันนี้
...................กล่าวถึงนายพรานได้จับนางโนห์ราที่พากันลงมาเล่นน้ำที่สระอโนดาตมาถวายท้าวศรีธน กษัตริย์เมืองเปงจานนครราช ทั้งสองเกิดความพึงพอใจต่อกันจนเกิดเป็นความรัก จึงได้จัดพิธีอภิเษกให้นางมโนห์รา เป็นมเหสีของท้าวศรีธน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่นางทั้ง ๗ ซึ่งเป็นลูกสาวปุโรหิตยิ่งนัก จึงคิดกลั่นแกล้งด้วยวิธี การกราบทูลให้ท้าวศรีธนออกไปรบกับข้าศึกที่ยกกองทัพมาประชิดชายแดนเมืองเปงจานนครราช ฝ่ายปุโรหิต
ได้กราบทูลพระเจ้าย่า ว่านางมโนราห์ไม่ใช่คนเป็นอมนุษย์เป็นตัวกาลีบ้านกาลีเมือง เป็นผู้ที่นำความเดือดร้อน มาสู่บ้านเมือง จึงขอให้นำเอาตัวออกไปฆ่าบูชายัญ ที่ศาลพระหลักเมือง นางมโนห์ราทราบข่าวจึงออก อุบายว่าก่อนตายจะขอร่ายรำ เพื่อขอขมาโทษต่อศาลพระหลักเมืองให้พระเจ้าย่าชมเสียก่อนจะตายและ
นางขอให้นำเอาปีกกับหางมาให้แต่งตัวด้วย เมื่อได้ปีกกับหางมาใส่แล้วนางมโนห์ราเริ่มร่ายรำด้วยท่าที อ่อนช้อยงดงาม พอได้จังหวะ และโอกาสที่นางร่ายรำท่าโฉบเฉี่ยวเล่นลม นางก็บินหนีกลับเมืองโกนจา ฝ่ายท้าวศรีธนที่ยกกองทัพออกไปรบได้รับชัยชนะ กลับมาไม่พบนางมโนห์ราก็โศกเศร้าเสียพระทัยเป็น อย่างยิ่ง จึงรีบออกติดตามหานางมโนห์ราด้วยความยากลำบากจนกระทั่งถึงแม่น้ำไม่สามารถข้ามได้ก็นั่งร้องไห้ พระอินทร์แปลงร่างเป็นชายแก่ นำเอาเรือมาให้และบอกทางที่จะไปยังเมืองของนางมโนห์ราให้ ขณะเดินทางท้าวศรีธน ได้มาพบพระฤาษีได้สอนวิชาอาคมต่าง ๆ ให้พร้อมกับมอบดาบวิเศษให้เป็นอาวุธประจำตัว จากนั้นจึงได้กราบลาพระฤาษีเดินทางต่อไปพบนกอินทรีย์แม่ลูกพูดกันว่า วันพรุ่งนี้จะพาไปกินเนื้อนางมโนห์
รา ซึ่งจะถูกประหารชีวิตเนื่องจากถูกมนุษย์จับไปแล้วหนีกลับมาได้ บิดาของนางได้ทำพิธีล้างกลิ่นสาบมนุษย์ ที่ติดตัวนางมโนห์ราให้แก่นาง แต่กลิ่นสาบมนุษย์นั้นไม่สามารถชะล้างออกได้หมดและจะต้องถูกประหารชีวิต เมื่อท้าวศรีธนได้ยินดังนั้นจึงได้ร่ายเวทย์มนต์แปลงร่างเป็นตัวไรปีนขึ้นอยู่ใต้ปีกลูกนกอินทรีย์ บินข้าม แม่น้ำไปยังเมืองภูเงิน พอรุ่งเช้านางพี่เลี้ยงได้ออกมาตักน้ำเพื่อไปทำพิธีชะล้างบาปให้นางมโนห์รา ท้าวศรีธนจึงซักถามจนทราบที่อยู่ของนางมโนห์รา หลังจากประกอบพิธีล้างบาปของนางมโนห์ราเสร็จแล้ว บิดาของนาง จึงประกาศเลือกคู่ครองให้แก่นางโดยวิธีให้ผู้ที่มีความประสงค์จะได้นางมโนห์ราไปเป็นคู่ครอง เอาพวง
มาลัยไปคล้องคอนางได้ถูกต้อง จึงจะมีสิทธิ์ได้นางไปเป็นคู่ครอง นางมโนห์ราจึงได้เอาแหวนของนางให้ พี่เลี้ยงมากระซิบบอกท้าวศรีธนว่า ให้เอาแหวนไปสวมใส่นิ้วนางกินรีทั้ง ๗ นางที่ออกมาให้เลือกคู่ทีละคน ถ้าแหวนสวมใส่นิ้วของนางผู้ใดได้พอดี นางผู้นั้นคือนางมโนห์ราตัวจริง ดังนั้นท้าวศรีธน จึงสามารถเลือกคู่ได้ นางมโนห์รา ท้าวภูเงินบิดาของนางจึงได้จัดพิธีอภิเษกให้ จากนั้นทั้งสองจึงกราบลาบิดาของนางกลับเมือง เปงจานนครราช แล้วให้จับปุโรหิตประหารชีวิต ส่วนนางสนม ๗ คน ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งทุกคน แล้วไล่ให้ไป เป็นคนเลี้ยงหมูตลอดชีวิต ซึ่งเมืองเปงจานนครราชปัจจุบันคือ บ้านเปงจาน ตำบลโพนแพง กิ่งอำเภอ รัตนวาปี จังหวัดหนองคาย โดยมีใบเสมาหินทรายเป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังมีถ้ำท้าวศรีธนและ
ถ้ำพระฤาษี ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ที่วัดถ้ำศรีธนหรือวัดสว่างอารมณ์ อำเภอปากคาด จังหวัดหนองคายทุก วันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น