วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตำนานเขาสามมุข

ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดเดี๋ยวก็มา

ตำนานเขาสามมุข

นื้อเรื่อง
.............ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ณ หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อว่า สาวมุข หรือ สาวมุก เป็นหญิงสาวสวยชาวเมืองบางปลาสร้อย ผู้กำพร้าบิดามารดา ได้มาอาศัยอยู่กับยายที่กระท่อมเชิงเขาสามมุขแห่งนี้ ต่อมาสาวมุขได้รักกับหนุ่ม นามว่า แสน บุตรกำนันบ่าย เศรษฐีแห่งบ้านหิน (อ่างศิลา) ซึ่งอยู่ห่างจากเขาสามมุขไปประมาณ ๕ กิโลเมตร ทั้งสองต่างสัญญาว่า จะรักกันชั่วนิรันดร และใช้สถานที่บริเวณเชิงผาแห่งนี้นัดพบกัน แต่เมื่อความทราบถึงกำนันบ่าย ผู้ซึ่งรังเกียจความยากจนของสาวมุข จึงบังคับแสนให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ตนเลือกให้ด้วยความพึงพอใจ ในวันที่แต่งงานนั้น สาวมุขได้เดินทางมาอวยพร และรดน้ำสังข์แก่คู่บ่าวสาว พร้อมทั้งคืนแหวนที่แสนเคยให้ไว้กว่าที่แสนจะรู้ว่า อะไรเกิดขึ้น สาวมุข ก็ได้วิ่งหนีหายไปบนเชิงเขาริมหน้าผา และสาวมุขได้ตัดสินใจโดดหน้าผาบูชาความรักจนถึงแก่ชีวิต ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แสนจึงโดดหน้าผาตายตามไปอีกคนหนึ่ง จากเหตุการณ์นี้เอง ภูเขาที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของหนุ่มแสนและสาวมุขจึงชื่อว่า เขาสามมุข ส่วนชายหาดบริเวณใกล้เคียงก็ได้ชื่อว่า บางแสน ดังที่ปรากฎเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้
แนวคิด
..............เขาสามมุข หรือเขาเจ้าแม่สามมุข อยู่ระหว่างตำบลอ่างศิลา และชายหาด บางแสน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี บริเวณเชิงหน้าผานี้มีศาล ชื่อว่า "ศาลเจ้าแม่สามมุข" อยู่ ๒ หลัง เป็นศาลไทยและศาลจีน เป็นที่เคารพสักการะของชาวประมงในท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี และนักทัศนาจรที่เยือนไปมา และเป็นอนุสรณ์แห่ง
ความรักของสาวมุขและหนุ่มแสน ปัจจุบันบริเวณเขาสามมุข มีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาบนเขาสามมุข โดยการนำกล้วย อ้อย และถั่ว ฯลฯ ไปฝากฝูงลิงเหล่านี้ ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่น่าสนใจและเป็นตำนานเล่าขานกันมาถึงทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น